วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Motorcycle Hug Past 1


ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เธอบอกกับตัวเองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจมัน และมันก็จะหายไป แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น หลังจากนั้น เธอก็ได้ให้เหตุผลว่า การที่จักรยานสั่นสะเทือนอยู่ที่ระหว่างขา มันคงจะดีกับคำอธิบายที่มีเหตุผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ที่เธอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์
หลังจากไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กับความช็อกทั้งทางร่างกายและจิตใจของ เอลเลน เอ็ดเวิร์ดได้เริ่มปรับตัวให้เข้ากับมนุษย์ต่างดาวบนโลกของศตวรรษที่ 21 ณ เมืองไซ่ง่อน เมืองแรกในเอเชีย หลังจากที่เธอออกมาจากสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ในความเป็นจริงแล้ว มันทำให้เธอประหลาดใจกับวิธีการบางอย่างที่รวดเร็ว เธอกลายเป็นเหมือนบุคคลที่ บรรดาคนแปลกหน้าในถนนจะต้องฝึกภาษาอังกฤษด้วย เมื่อเห็นใบหน้าของเธอ

ในปีนี้ เธอพาตัวเองออกทางประตูบ้านเล็กๆ ของเธอ เพื่อเข้าไปในตรอกเล็กๆ และนั่งลงเพื่อดื่มกาแฟที่ร้านท้องถิ่น มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอไปเสียแล้ว เอลเลนจะจิบมอคค่าหวานๆ ที่ทำจากกาแฟดำและนมข้นหวาน วันนี้เป็นวันสบายสำหรับเธอ เวลาของการสูบบุหรี่และอ่านหนังสือพิมพ์
"สวัสดี โก หย๋าว (ครู)" หญิงสาวที่อยู่บ้านตรงข้ามทักทายเธอ พร้อมทั้งขยับลูกชายที่วัย 6 ขวบ ที่อยู่ด้านหลังของเธอ
"สวัสดีครับ คุณครู" เด็กชายตัวน้อยพูดแก้ไข คำทักทายของแม่ของเขา พร้อมทั้งยิ้มให้กับ เอลเลน
"สวัสดีค่ะ พี่สาว" เอลเลนตอบในในภาษาเวียดนามด้วยสำเนียงที่ไม่ดีนัก เธอจ้องมองไปที่เด็กชายตัวน้อย "สวัสดี แทง ไปโรงเรียนกัน"

มันจะเป็นแบบนี้ ในทุกๆ เช้า และเวลา 8 นาฬิกา เมืองดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนผ่านหลังคา มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องขยับตัวออกจากร้ายกาแฟ และเดินไปที่ปากซอยเพื่อขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปสถาบันสอนภาษา

เป็นเวลาหลายเดือน บิน เป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่เห็นวิธีการของเธอ เค้าเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่ง และเริ่มทำงานอีกครั้ง เอลเลนจะทักทายเขาพร้อมทั้งกระโดดลงที่ด้านหลัง สำหรับการเดินทางไปทำงานโดยผ่านการจราจรที่วุ่นวายในตอนเช้า

เช้าวันหนึ่งในช่วงปลายเดือนกันยายน หลังจากที่ทำกิจวัตรประจำวันเดิมๆ เรียบร้อยแล้ว เอลเลนเดินไปที่เดิม บินหายไป แทนที่ด้วยคนแปลกหน้าที่ใส่เสื้อสีฟ้าพับแขน และกางเกงขนาดใหญ่ มีการแย่งชิงอำนาจของเขาเกิดขึ้น เขาตั้งรถและยิ้มให้เธอ
"พี่บินไปไหน?" เอลเลนถาม
"ไปที่หมู่บ้านของเขาในชนบท" คนแปลกหน้าพูดอย่างเงียบๆ "แต่ผมสามารถพาคุณไปได้ คุณไปที่สภาบันสอนภาษาใช่ไหม?" เขาสะบัดผมที่บังตาด้านซ้าย พร้อมเสยกลับขึ้นไปบนศีรษะของเขา

เอลเลนมองเขาด้วยความงงงวย ความหงุดหงิดของเธอเริ่มเพิ่มมากขึ้นในใจ กิจวัตรประจำวันที่เธอคาดหวัง ถูกทำลายด้วยเรื่องที่ไร้สาระ

ถนนสายหลักที่ปากซอย คือการจลาจลของรถจักรยาน จักรยานยนต์และรถเก่าๆ หรือเธอควรขึ้นแท็กซี่ แต่เมื่อเธอเหลือบดูเวลาที่นาฬิกาของเธอ 10 นาทีสำหรับการไปทำงาน และในเวลาแบบนี้ แท็กซี่ก็คงจะไปไม่ทัน

เธอมองกลับไปที่คนแปลกหน้า มองสำรวจเสื้อผ้าและรองเท้าของเขาอีกครั้ง พร้อมทั้งจ้องหน้า ในประเทศของเธอการมองแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หยาบคาย แต่สำหรับที่นี่ คือเรื่องปกติ

"เท่าไร" เธอตะคอกถาม
"บินคิดเท่าไหร่"
"หมื่นดอง"
เขาแสยะยิ้มให้เธอ "งั้นก็ หมื่นดอง"
"แปด" เธอกล่าวเสียงแข็ง
เขาเอียงศีรษะ "ทำไม?"
"ฉันไม่รู้จักคุณ คุณอาจจะเป็นคนขับที่ไม่ดีก็ได้"
เขายักไหล่และหัวเราะออกมา พร้อมโชว์ฟันขาวและฟันทองซี่หนึ่ง "ฉันเป้นคนขับรถที่ดีนะ และดีมากกว่าบินอีก"
เธอยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ พร้อมด้วยการทำสงครามด้วยความเงียบ
เขาก้มลงมอง แล้วก็พยักหน้า "ตกลง แปด ขึ้นมา"

ถึงจะยังรู้สึกโกรธที่กำหนดการของเธอถูกทำลายอย่างย่อยยับ เธอได้ขึ้นบนหลังรถจักรยานและเอากระเป๋าหนังสือกั้นระหว่างเธอกับคนขับรถ

เอลเลนได้เรียนรู้คำว่า แซ โอม (xe om) หมายถึง กอดเอวคนขับ แต่ก็ไม่มีใครกอดคนขับจริงๆ แซ โอม เป็นเพียงก้าวเดียวจากรถจักรยาน รถจักรย่านที่มีราคาถูกและช้ากว่ารถแท็กซี่ สำหรับรถจักรยานสามล้อที่ขับเคลื่อนผู้คนและสินค้าไปทั่วเมือง คนขับรถจักรยานเป้นชาวเวียดนามที่เที่ยบเท่ากับกับถนนคนตะวันตก สำหรับข้อเรียกร้องทั้งหมดของเวียดนามต่อความเสมอภาคทางสังคมนิยม โครงสร้างแบบเก่ายังคงถูกยึดมั่นอยู่ และผู้โดยสารก็ไม่เคยกอดเอวคนขับรถ

Cr. remittancegirl.com